Digital Nomad
วิวัฒนาการออฟฟิศที่ทำงานสู่ – Digital Nomad
“จะเป็นอย่างไรถ้าคุณสามารถทำงานที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ?”
.
ว่าด้วยเรื่องของวิถีสังคมมนุษย์เงินเดือน ก็คงหนีไม่พ้นการตื่นเช้าเพื่อเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศให้ทัน และพบกับทุกเช้าที่แสนวุ่นวายในเมือง และจบหนึ่งวันของคุณตอนเย็นที่คุณเลิกงานอย่างเหนื่อยล้า และพยายามแบกสังขารอันหนักอึ้งของคุณกลับสู่ที่นอน ชีวิตประจำวันที่วนลูป หลีกเลี่ยงไม่ได้ การต้องผ่านแต่สถานที่เดิม ๆ ซ้ำไป ซ้ำมา ในทุก ๆ วัน โต๊ะทำงานตัวเดิมที่นั่งมาตลอด มันช่างน่าหดหู่เสียจริง (?)
แต่แล้วความน่าเบื่อก็กลับกลายเป็นความกังวลใจเสียอย่างนั้น เมื่อคุณไม่สามารถไปทำงานที่ออฟฟิศได้อีกแล้ว ความเบื่อหน่ายเปลี่ยนเป็นความกังวลใจ เพราะการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้คุณต้องนั่งทำงานอย่างกระวนกระวายใจอยู่บ้าน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่บริษัทจะทำการปลดพนักงาน แต่ว่าสถานการณ์ของโควิดก็ช่างยาวนานเสียเหลือเกิน ยาวนานมากพอที่จะทำให้้มนุษย์โลกปรับตัว
หลายบริษัทมีการปรับตัวมากขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ที่ผ่านมา เริ่มมีการเปลี่ยนบทบาทสังคมการทำงาน ที่ทุกคนสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ โดยขอแค่ส่งงานให้ตรงตามเวลาที่กำหนด โดยทำการส่งงานเชื่อมถึงกันโดยใช้ Cloud เป็นหลัก คุณจะสามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้ นอนตอนไหน และตื่นตอนไหนก็ได้ ประจวบเหมาะกับช่วงที่สถานการณ์โควิดเริ่มมีการคลี่คลายลง มันหมายความว่า “คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยและทำงานไปด่้วยได้!”
ลบภาพจำอันเดิมโต๊ะทำงานตัวเก่าของคุณไปได้เลย เพราะการทำงานแบบใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น และนี่คือสิ่งที่เรียกว่า Digital Nomad
มองดูภาพสังคมการทำงานของเราตอนนี้สิ มันเริ่มใกล้เคียงกับหนัง Sci-Fi ที่เราดูเข้าไปทุกที ในบางประเทศเริ่มมีการสนับสนุนการทำงานแบบ Digital Nomad มากขึ้น อย่างเช่น ประเทศอินโดนีเซียก็ทำการดึงดูดคนกลุ่มนี้ด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย เช่นการงดเว้นภาษี หากรายได้ที่รับไม่ได้มาจากประเทศอินโดนีเซีย ส่งเสริมการพักผ่อนด้านจิตใจ หรือจะเป็นทางฝั่งยุโรปที่ให้ความสำคัญกับ Digital Nomad มากจนเกิด Digital Nomad Visa ที่มีระยะเวลามากกว่าวีซ่าท่องเที่ยว และยังสามารถทำเรื่องขอวีซ่าได้ออนไลน์ด้วย เพราะว่าอาชีพเหล่านี้สร้างมูลค่าให้แก่เศรษฐกิจในประเทศเป็นอย่างมาก
มาดูกันว่าข้อดีและข้อเสียของ Digital Nomad มีอะไรบ้าง
ข้อดี
- ความอิสระ – คุณไม่ถูกตีกรอบโดยบริษัทว่าคุณต้องแต่งตัวอย่างไร เข้างานกี่โมง หรือต้องไปทำงานที่ไหน เพราะคุณจะได้กำหนดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
- ประสบการณ์ – การได้เดินทางไปทำงานในสถานที่ต่าง ๆ จะทำให้คุณได้พบเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ไอเดียบรรเจิด เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายจากสถานที่ ที่คุณได้เดินทางไป
- ได้รับคอนเนคชั่น – บางครั้งการออกไปเปิดหูเปิดตา ก็ทำให้คุณได้รู้จักกับคนใหม่ ๆ คุณจะได้มีเส้นสายในการทำงานมากขึ้น ซึ่งก็เป็นประโยชน์แก่ตัวคุณเองในอนาคต
- สุขภาพจิตที่ดีขึ้น – แน่นอนว่าสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญ คุณจะได้มีเวลาผ่อนคลายกับตัวเองมากขึ้นแต่เครียดกับการทำงานในออฟฟิศน้อยลงได้รับพลังพวกจาสภาพแวดล้อมที่ดี
- ประหยัดทรัพยากร – เมื่อคุณทำงานรูปแบบออนไลน์มากขึ้นก็ลดการใช้กระดาษ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นแม็กเย็บกระดาษ หรือกาว ช่วยทำให้โลกประหยัดทรัพยากรได้มากขึ้น
ข้อเสีย
- ความเหงา – บางครั้งการออกไปเชผิญโลกกว้างก็อาจจะทำให้คุณโหวงเหวงใจกว่าที่คิดไว้
- ระยะห่าง – คุณอาจจะมีระยะห่างกับคนที่คุณรักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือว่าเพื่อนสนิท หรือคนใกล้ตัวคุณที่คุณสนิทชิดเชื้อ รวมถึงคุณและคนที่คุณรักอาจจะสนิทกันน้อยลง
- อุปสรรคด้านภาษา – หากคุณเลือกที่จะเดินทางไปต่างประเทศ การใช้ภาษาเองก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำหรับคุณที่ต้องพบ
- อันตราย – การอยู่คนเดียวที่ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร หรือมีความรอบคอบในการใช้ชีวิตแค่ไหน อันตรายก็เกิดขึ้นได้กับคุณเสมอ การอยู่คนเดียวอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยนัก
สุดท้ายแล้วไม่ว่าชีวิตของคุณจะเลือกเดินไปเส้นทางไหน ก็มีทั้งดีและร้ายเสมอ แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบอุดอู้อยู่ในบ้านหรือออฟฟิศ การทำงานในรูปแบบ Digital Nomad เองก็อาจจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ คุณจะเป็นคนที่ได้เลือกกฎเกณฑ์การใช้ชีวิตในรูปแบบของตัวเอง และพบเจอสิ่งใหม่ ๆ ในทุกครั้งที่คุณได้ออกเดินทาง และถ้าคุณอ่านจบบรรทัดนี้แล้ว และรู้สึกว่านี่คืองานที่ใช่สำหรับคุณ ก็อย่ารอช้าที่จะหาโอกาสให้ได้ลงมือทำ
“ขอให้โชคดีและมีความสุขกับทางเดินข้างที่รอคุณ”
เขียนโดย : พรธวัล ใจเขียนดี
แหล่งอ้างอิง : Benefits and Drawbacks of Being a Digital Nomad – Nomad Secrets
ส่องเทรนด์ฮิต ‘Digital Nomad’ อาชีพนี้มีความน่าสนใจอย่างไร? (dtac.co.th)
5 อาชีพที่ไม่ต้องมีสกิลเฉพาะก็เป็น Digital Nomad ได้ – Adaptivity