‘All These Vibes’  ศูนย์รวมอุปกรณ์สุขภาวะทางเพศ ที่ไม่ใช่แค่เพียงการจำหน่าย 

“กิน ขี้ ปี้ นอน ชีวิตคนเรามันก็ต้องการแค่นี้แหละ”

ไม่รู้ว่าจะมีใครเชื่อในคำนี้ไหม แต่เราเชื่อเต็มหัวใจ เพราะชีวิตเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านี้สักเท่าไหร่

เรื่อง กิน ขี้ นอน เป็นเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ที่มนุษย์ในสังคมไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือมองว่าเป็นเรื่องของตัวเองต้องเข้าไปยุ่งสักเท่าไหร่ แต่ทราบไหม มนุษย์ในสังคมหลาย ๆ คน ฝักใฝ่ที่อยากจะเข้าไปรับรู้ บังคับ ควบคุม เรื่อง ‘ปี้’ ของคนอื่นเสมอ ๆ คำว่า ‘ปี้’ ในที่นี้ เราไม่ได้จะพูดถึงภาษาเหนือที่มีความหมายว่า พี่ แต่อย่างใด แต่เรากำลังจะพูดถึงในความหมายที่ว่า ‘เป็นการมีเพศสัมพันธ์’

ภาพอุปกรณ์สุขภาวะทางเพศที่มีลักษณะคล้ายแปรงแต่งหน้า (2024). ภาพโดย นิพพิชฌน์ ไชยรักษา

จริง ๆ แล้วเซ็กซ์ทอยมีประวัติมาอย่างยาวนานมาก ตามหลักฐานที่ค้นพบ  มีตั้งแต่ในยุคของก่อนประวัติศาสตร์  เป็นลึงค์หิน ยุคหินเก่าที่ค้นพบที่ถ้ำ Hohle Fels ซึ่งนักโบราณคดีสันนิษฐานไว้ว่า เคยถูกใช้เป็น ดิลโด้ หรือที่เคารพบูชามาก่อน หลังจากนั้นก็มีเรื่อย ๆ มา ตามยุคสมัยของมนุษย์ โดยรูปร่างของมันก็เปลี่ยนไปตามสรีระร่างกาย และมีการพัฒนาเรื่อยมา จนเข้าสู่ยุคปัจจุบันที่เซ็กซ์ทอยนั้นมีหลากหลายรูปแบบเพื่อทุกเพศสภาวะ นอกจากนี้ยังมีมูลค่าทางการตลาดหลายพันล้าน สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในทางออฟไลน์และออนไลน์ และที่สำคัญในตอนนี้ ตลาดมีการเติบโตจาก 15 พันล้านดอลลาร์ในปี พ.ศ. 2558 เป็น 52 พันล้านดอลลาร์ โดยประมาณในปี พ.ศ. 2569 แต่ไม่น่าจะนับรวมประเทศไทยเข้าไปอยู่ในจำนวนนับนั้น

ในต่างประเทศการซื้อขายเซ็กซ์ทอยเป็นเรื่องง่าย มีมูลค่าทางการตลาดมากมาย แต่ในประเทศที่ปรักหักพังทางความคิด ติดหล่มจริยธรรม ชอบสอดรู้เรื่อง ปี้ ของคนอื่นตรงนี้ การซื้อขายเซ็กซ์ทอยยังคงเป็นเรื่องที่เข้าถึงยาก ไม่ปลอดภัย ไม่มีอะไรรองรับให้ผู้บริโภคสบายใจได้ และมีกฎหมายบังคับ ควบคุม ที่บอกว่าอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยนั้นเข้าข่ายลามก อนาจาร เป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม กรมศุลกากรห้ามนำเซ็กซ์ทอยเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เพราะเป็นวัตถุหรือสื่อลามก มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 มีโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมากไปกว่านั้นก็มีผู้ค้าหลายรายที่ถูกจับจนออกข่าว เช่น ในวันที่ 5 ตุลาคม 2566 สำนักข่าว NBT รายงานว่า ปอท. บุกจับโกดังเก็บวัตถุลามก (Sex Toy) มันแสดงให้เห็นว่าประมวลกฎหมายนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการที่เราบอกไว้ตอนต้นว่า มนุษย์ยังคงฝักใฝ่ที่อยากจะเข้าไปรับรู้ บังคับ ควบคุม เรื่อง ‘ปี้’ ของคนอื่น มนุษย์ที่ว่าคนนั้นก็คือ รัฐ ดี ๆ นั่นแหละ เชื่อหรือยัง ?

ถ้าจะบอกว่าในประเทศไทยไม่มีร้านขายเลย แน่นอนว่าเป็นเรื่องโกหก แต่มีหนึ่งร้าน ชื่อร้านว่า All These Vibes เราได้ทำการสัมภาษณ์เขาแบบทางไกล ถึงแม้ระยะทางของเราและเขาจะห่างกันมาก ราว ๆ 600 กิโลเมตร แต่เรารับรู้ได้ว่า ร้านนี้เขาไม่เหมือนใคร มีความเป็นตัวเองที่ชัดเจน และกำลังจัดจำหน่ายอุปกรณ์สุขภาวะทางเพศ (Sexual Well-ness Device) อยู่ (เข้าใจตรงกันนะ ! )

การเดินทางไกลของ All These Vibes ตั้งแต่จุดเริ่มต้น และยังไม่ต้องการพบจุดสิ้นสุด

เราพูดคุยกับคุณไวบ์ หุ้นส่วนร้าน All These Vibes (ไม่ใช่เจ้าของคนเดียวเพราะร่วมลงทุนกับคนรัก) เป็นนักกิจกรรมขับเคลื่อนนิดหน่อย ที่เชื่อว่าอุดมการณ์ต้องกินได้ โดยเราตั้งคำถามไปว่า ที่เริ่มก่อตั้งร้านมา คิดว่าเดินทางมาไกลหรือยัง ?

“ถ้าถามว่าตอนนี้มาไกลแค่ไหน ก็จะตอบว่ามาไกลมาก แต่ถ้าต้องตอบว่าต้องไปไกลอีกแค่ไหน คือ ไม่รู้ก่อนที่คุณไวบ์จะพูดคำนี้ เขาใช้เวลาคิดสักพักหนึ่งด้วยสีหน้าที่จริงจัง

All These Vibes เป็นร้านที่จัดจำหน่าย อุปกรณ์สุขภาวะทางเพศ (Sexual Well-ness Device) ตอนนี้มีขายในช่องทางออนไลน์ โดยขายอยู่บนเว็บไซต์ allthesevibes.com แต่จุดเริ่มต้นจริง ๆ พวกเขาได้เริ่มทำการขายในแอปพลิเคชัน X หรือชื่อเก่าที่เรียกว่า TWITTER คุณไวบ์เล่าให้ฟังว่า ในช่วงเวลาก่อนเปิดร้าน มันเป็นช่วงที่เขาเรียนจบพอดี เรียกได้ว่าเป็น เด็กจบใหม่ ที่กำลังหางานในช่วงโควิดกำลังระบาด ซึ่งตอนนั้นอาชีพที่พอหาได้เพื่อดำรงชีพในตลาดแรงงานคือ กราฟิกดีไซน์เนอร์ เพราะตัวเขาก็เรียนจบทางนี้พอดี แต่ก็เจอปัญหาที่ว่า งานหนัก เงินน้อย ไร้สวัสดิการ เทียบกับคนรักของเขาที่จบมาเป็นวิศวกร งานหนัก แต่เงินค่อนข้างดีกว่าเป็นเท่าตัว เพราะความต่างตรงนี้เลยทำให้คุณไวบ์เริ่มได้รู้จักและสัมผัสกับความเหลื่อมล้ำที่แท้จริง

ภาพหน้าเว็บไซต์ของร้าน All These Vibes (2024). ภาพจาก All These Vibes

คุณไวบ์กับคนรัก เป็นคู่รักแซฟฟิก อธิบายง่าย ๆ ก็คือ คู่รักหญิงรักหญิง ณ ขณะนั้น คุณไวบ์เองเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพนิดหน่อยเลยไม่ค่อยพร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์สักเท่าไหร่ เลยส่งผลให้คนรักของคุณไวบ์มีความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวว่า อยากลองพรีออเดอร์ ‘ของเล่นผู้ใหญ่’ ดู เพื่อเป็นตัวเชื่อมความต้องการระหว่างนั้นพอได้เอามาลองใช้ก็ค้นพบว่าของเล่นผู้ใหญ่นั้น ทำให้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของเขามันดีขึ้นแต่สุดท้ายก็ดันเกิดปัญหาใหญ่ที่ว่า มีของเล่นอันหนึ่ง มีเสียงมอเตอร์ข้างในที่ดังผิดปกติ จนเหมือนจะก่อให้เกิดความอันตรายมาในภายหลังแน่ ๆ คุณไวบ์เลยฉุกคิดขึ้นมาว่า “ชีวิตเราเสี่ยงขนาดนี้เลยเหรอวะ”

ต่อมาคนรักของคุณไวบ์ก็ได้เริ่มปฏิบัติการหาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดสินค้าของเล่นผู้ใหญ่ แล้วค้นพบว่าคนไทยไม่รู้แม้กระทั่งว่ามันมีประเภทไหน ชื่อยี่ห้ออะไร รู้เพียงแค่ว่า มันมีการสั่นเฉย ๆ เพียงเท่านั้น และคนรักของเขาก็ได้เริ่มนำเอามันมาขาย โดยที่เขาเองก็ไม่รู้จนกระทั่งที่ว่าคนรักเขาโทรมาบอกว่าให้ไปช่วยแพ็คของ และร้านของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักจากการรีวิวของเพื่อน เพราะตอนนั้นโพสต์มันแมสมาก ๆ พวกเขาก็เลยตัดสินใจที่จะออกจากงานประจำที่เคยทำอยู่และมาร่วมกันทำ All These Vibes แบบเต็มตัว

ภาพผู้หญิงกำลังเล่นกับส้มและโยเกิร์ต (2024). ภาพโดย นิพพิชฌน์ ไชยรักษา

ไม่ใช่แค่เพียงได้รับสินค้า แต่การได้รับคำปรึกษาก็สำคัญ

“ถ้าเขาไม่มีปัญหาอะ เขาไม่แบกปัญหามาถามเราหรอก เขาแบกปัญหาที่แบบ เขาแบกปัญหามาทั้งชีวิตอะ มันอาจจะเป็นสิ่งที่เขาเครียดที่สุดในชีวิตแล้ว เขาถึงมาถามเรา”

พอหลังจากเปิดร้านมาในกล่องข้อความทวิตเตอร์ของร้านก็ล้นหลามไปด้วยคำถามจากลูกค้า แต่ที่น่าประหลาดใจมากไปกว่านั้นก็คือ คำถามที่ถูกถาม ไม่ใช่คำถามเกี่ยวกับเรื่องของสินค้า แต่มีคำถามที่ว่า “พี่คะ ยาคุมกินยังไงคะ” “หนูควรจะเปิดกล้องให้แฟนดูตอนอาบน้ำไหมคะ” แต่ก็มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเพศอื่น ๆ เข้ามา จนทำให้คุณไวบ์รู้สึกว่าวันหนึ่งถ้าเจอคำถามที่เขาตอบไม่ได้จะทำอย่างไร จนวันหนึ่งเขาได้ไปรู้จักกับนักกิจกรรมเฟมินิสต์ และพวกเขาก็ได้แนะนำคุณไวบ์เกี่ยวกับเรื่องคอร์สเรียน Clinical Sexology ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณไวบ์ก็เลือกที่จะเรียน โดยใช้รายได้ที่หาได้จากการเปิดร้าน All These Vibes

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการให้คำปรึกษาของ All These Vibes แทบจะเป็นจุดขายของทางร้านเลยก็ว่าได้ เพราะมันสามารถอนุมานได้ว่า ทางร้านนั้นไม่ได้ต้องการที่จะขายของอย่างเดียวแต่ต้องการที่จะช่วยเหลือลูกค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ คุณไวบ์บอกว่าเขาไม่ได้เงินจากการให้ปรึกษาสักบาทเดียว สิ่งที่ได้รับกลับมาก็เป็นแค่เพียงการขายของได้ แต่เขาก็ยินดีและเต็มใจที่จะตอบคำถามที่ลูกค้าเข้ามาปรึกษา และสิ่งที่น่าสนใจคุณไวบ์แชร์ให้เราฟังว่า สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดถูกถามบ่อยครั้งที่สุดคือปัญหาการ ‘ไม่เสร็จ’ ของผู้หญิง และอีกเคสหนึ่งที่ยากมาก ๆ ตั้งแต่เปิดร้านมาก็เป็นกรณีที่ว่ามีลูกค้าคนหนึ่งมีปัญหาเรื่องการมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากการผ่าตัด ณ ขณะนั้นคุณไวบ์เป็นนักเพศวิทยาเต็มตัว แต่ก็ยังรู้สึกว่ากำลังถึงทางตัน

นอกจากนี้ทางร้านก็ได้ตั้งชื่อ #ห้องเรียนน้องไวบ์ ในทวิตเตอร์ เพื่อให้ทุกคนมาร่วมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ไปพร้อม ๆ กัน เมื่อคุณมีปัญหา ก็จะมีคนพร้อมที่จะให้คำปรึกษาคุณ ด้วยชุดความรู้ที่หลากหลายมากขึ้นแต่อย่างไรก็ตาม คุณไวบ์บอกกับเราว่า “ชุดความรู้ที่เขาเอาไปดูแลตัวเองนั่นแหละที่เป็นประสบการณ์ที่เหมาะกับเขาที่สุด ผ่านการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะเราไม่เชื่อการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของคนอื่น หรือเรียนรู้ผ่านองค์ความรู้ของคนอื่นได้”

อุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางธุรกิจ โดยรัฐที่ไม่รักเรา

“กลัวไฟช็อก กลัวไฟช็อกตาย” คำตอบจากผู้ใช้งานที่เรานั่งคุยด้วย

“เรามีเคสถึงขนาดที่ว่าแบบ กลัวว่าจะไม่ส่งของ คือเราเข้าใจนะหลายครั้งบางเคสกลัวไม่ส่งของ กลัวว่าเราจะเป็นมิจฉาชีพ กลัวว่าเราจะเป็นอื่นที่ไม่ใช่เราอะค่ะ คุณไวบ์เล่าถึงความกังวลของลูกค้า

และเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา รายการเรื่องเล่าเช้านี้รายงานข่าวว่าสาวผู้กล้าโพสต์เตือนภัย ‘เซ็กซ์ทอย’ ไม่ได้มาตรฐาน โดยมีเนื้อหาในโพสต์ว่า “ใครมันเป็นคนบอกไม่มีผัวก็ไม่ตาย ไฟเกือบช็อก – ตาย อิ – ทงงงงง!!”

จากกรณีตัวอย่างที่เราได้หยิบยกมาเล่าให้ฟังจะเห็นได้ว่าเป็นความกังวล และสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วต่อผู้บริโภคทั้งนั้น

ความกังวลเหล่านี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้น เพราะการซื้อสินค้าพวกนี้จะไม่ถูกรับรองความปลอดภัยได้จากรัฐ ถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ และนอกจากนี้สังคมก็ยังคงมองว่าผู้ใช้สินค้าพวกนี้เป็นอื่น และอยู่นอกศีลธรรมอีก

ในส่วนของ All These Vibes คุณไวบ์บอกว่า เขาก็กำลังที่จะพยายามผลักดันให้มันถูกกฎหมายสักที เพราะการทำอะไรหลบ ๆ ซ่อน ๆ ก็เป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก ๆ อยู่แล้ว “เราอยากทำตามกระบวนการ เราอยากจ่ายภาษีตามระบบ มันทำงานง่ายกว่า เราพูดตามตรงมันทำงานง่ายกว่ามาก การที่จะจัดการเรื่องราวต่าง ๆ และที่สำคัญคือการคุ้มครองผู้บริโภค” เขาไม่ได้เพียงสนใจแค่ว่า ถ้าถูกกฎหมายแล้วร้านเขาจะขายดีขึ้น ตอนที่นั่งพูดคุยเขาพูดถึงผู้บริโภคเป็นหลัก คุณไวบ์เองก็ไม่อยากให้ผู้บริโภคได้รับของที่ไร้คุณภาพ ต้องซื้อของที่มีราคาแพงหรือต้องมานั่งกังวลว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุจากการใช้แล้วจะต้องทำอะไรต่อไป เขาอยากให้รัฐคุ้มครองปัญหาของประชาชนไม่ใช่แค่เพียงตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

‘แล้วถ้ามันถูกกฎหมายล่ะ คิดว่าจะเป็นยังไง’ เราถามทั้งคุณไวบ์กับผู้เคยใช้งานด้วยคำถามเดียวกัน

“กูซื้อแน่นอน” เธอตอบด้วยน้ำเสียงปนขำที่สดใสที่สุดตั้งแต่นั่งคุยกันมา

“เราตั้งใจว่า เราจะเป็นศูนย์รวม Sexual Well-ness ทุกแบรนด์ไม่ได้สนใจว่าแบรนด์ไหน เพราะว่าเราตั้งใจให้ไวบ์เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ขายแค่สินค้า เราขายการให้คำปรึกษา เราขายการที่คุณมีความกังวลเรื่องเพศนะ คุณปรึกษาเราได้ เรายินดีที่จะช่วยคุณ” คุณไวบ์บอกเราด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ยินดีจริง

ภาพผลไม้  (2024). ภาพโดย นิพพิชฌน์ ไชยรักษา

จากหนังสือประมวลบทความในการประชุมวิชาการนิติสังคมศาสตร์ระดับชาติ หัวข้อ “จินตนาการใหม่ ภูมิทัศน์นิติศาสตร์ไทย” เรื่องสินค้าบาปกับการควบคุมของรัฐ: เปรียบเทียบกรณีบุหรี่และสุรากับเซ็กซ์ทอยได้กล่าวถึงว่า ตามหลักสิทธิมนุษยชน การที่รัฐนั้นใช้อำนาจจำกัดสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงสินค้าได้แก่ บุหรี่ สุรา และเซ็กซ์ทอย นั้นตั้งอยู่บนหลักการที่ว่าเพื่อการคุ้มครองความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในกรณีของบุหรี่และสุรารัฐอ้างว่าควบคุมเพื่อเรื่องของสุขภาพ แต่ไม่ได้ห้ามปรามอย่างเด็ดขาดในทางตรงกันข้ามเซ็กซ์ทอยนั้นถูกห้ามปรามอย่างเด็ดขาด และผู้เขียนเรื่องนี้มีความเห็นถึงประเด็นนี้ว่า เซ็กซ์ทอยนั้นไม่ควรถูกกำหนดให้เป็นความผิดทางอาญา และเราก็มีความเห็นแบบนี้เช่นเดียวกัน

สุดท้ายนี้ในต่างประเทศอาทิ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก จัดให้เซ็กซ์ทอยเป็นสินค้าถูกกฎหมาย ประชาชนสามารถครอบครองมีไว้จำหน่ายรวมถึงมีเซ็กซ์ช็อปที่จำหน่ายสินค้าอย่างเปิดเผย อย่างในญี่ปุ่นก็จะเห็นได้ว่า มีการตั้งขายตามร้าน แต่ก็มีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวดเช่นกัน เราคิดว่า ประเทศไทยนั้นสามารถแก้ไขเรื่องปัญหาเซ็กซ์ทอยผิดกฎหมาย โดยมีการควบคุมเหมือนในต่างประเทศที่เซ็กซ์ทอยถูกกฎหมายแล้ว และประเทศไทยจะได้เป็นหนึ่งในจำนวนนับของมูลค่าทางการตลาดเซ็กซ์ทอยบ้าง

“มันดัดจริตผิดบริบท นึกออกไหมคือแบบ โอ้ย กลัวกลัวกลัว อันนี้อนาจาร ลามก แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางอะ แม่งเอา ควX มาตั้งบูชาอยู่เลย ห้อยพวงมาลัยพร้อมถวายน้ำแดง มึงไม่ตลกเหรอ” หนึ่งเสียงจากประชาชนที่รอให้รัฐไทยเริ่มต้นการแก้กฎหมายเซ็กซ์ทอยเสียที

ผู้เขียน : กุลปริยา โนนทัน

พิสูจน์อักษร : เกสรา คล้ายแก้ว

ภาพปก : จิราพัชร พิทักษ์เมธี

อ้างอิง

Sex toys: A Brief History

Sex Toy ถูกกฎหมาย คนไทยคิดว่าไร?

ปอท. บุกจับโกดังเก็บวัตถุลามก (Sextoy)

สาวผู้กล้าโพสต์เตือนภัย ‘เซ็กซ์ทอย’ ไม่ได้มาตรฐาน ตร.บุกจับได้ 169 ชิ้น

All These Vibes อุปกรณ์สุขภาพเพศโดยนักเพศวิทยา

สินค้าบาปกับการควบคุมของรัฐ: เปรียบเทียบกรณีบุหรี่และสุรากับเซ็กซ์ทอย