มรดกเชียงใหม่กับการสร้างชุมชนยั่งยืน
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 851244 Data Storytelling for Creative Media
บ้านข้างวัด

เมื่อพูดถึง “บ้านข้างวัด” หลายคนคงนึกถึงชุมชนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเชียงใหม่ โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น อาคารไม้สไตล์ล้านนา และพื้นที่สีเขียวที่แทรกตัวอยู่ทั่วบริเวณ แต่ความพิเศษของบ้านข้างวัดไม่ได้หยุดอยู่เพียงความสวยงาม เพราะที่นี่คือตัวอย่างของการออกแบบพื้นที่อย่างยั่งยืนที่เชื่อมโยงธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชุมชนเข้าด้วยกัน
บ้านข้างวัดตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้วยการตั้งอยู่ใกล้กับวัดที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์และจิตใจของชุมชน พื้นที่นี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นศูนย์กลางในการรักษาและสืบทอดประเพณีของชาวล้านนา รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในด้านศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น การที่บ้านข้างวัดรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมเดิมไว้ พร้อมกับการพัฒนาในรูปแบบที่ทันสมัย ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
การออกแบบที่สะท้อนความยั่งยืนและวัฒนธรรม
บ้านข้างวัดถูกออกแบบด้วยแนวคิดที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นถิ่น อาคารส่วนใหญ่สร้างขึ้นจากไม้เก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่แล้ว ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวล้านนา นอกจากนี้ ทุกอาคารถูกออกแบบให้มีความโปร่งสบาย เชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบข้าง เช่น การใช้หน้าต่างไม้บานใหญ่เพื่อรับลมธรรมชาติ และการจัดวางต้นไม้รอบอาคารเพื่อเพิ่มความร่มรื่น พื้นที่สีเขียวในบ้านข้างวัดยังมีบทบาทสำคัญในการลดมลพิษทางอากาศ ข้อมูลจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ระบุว่าการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองช่วยลดอุณหภูมิและปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างพื้นที่ที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน แต่ยังช่วยสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย นอกจากนี้การใช้วัสดุจากธรรมชาติและการรักษาความเป็นมาของการก่อสร้างยังสะท้อนถึงความเคารพในทรัพยากรธรรมชาติและความยั่งยืนในระยะยาว
ชุมชนของคนทำงานคราฟท์และการสร้างรายได้

พื้นที่นี้ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับพักผ่อน แต่ยังเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับชุมชน ผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น การขายสินค้าแฮนด์เมด การจัด Workshop ศิลปะ การแสดงดนตรีพื้นบ้าน และร้านกาแฟที่มีการออกแบบตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศดั้งเดิม โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานคราฟท์ที่อาศัยร่วมกันมากกว่า 30 ชีวิต ภายใต้ความร่วมมือกันในการยกระดับการทำงานฝีมือให้ดีและมีคุณค่า ทั้งในด้านงานจิตรกรรม ประติมากรรม งานปักผ้า งานย้อมผ้า งานเย็บสมุด งานจักสาน งานเครื่องหนัง ฯลฯ สมาชิกทั้งหมดเป็นศิลปินที่มีความถนัดเฉพาะด้านและทำงานฝีมือมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเปิดสอน Workshop หรือ D.I.Y. ให้แก่ผู้ที่สนใจได้มีโอกาสเรียนรู้และทดลองทำ
งานวิจัยจาก กรมส่งเสริมวัฒนธรรมในปี 2022 ระบุว่า การสนับสนุนงานฝีมือและศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นในชุมชนสามารถเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนได้ถึง 40% บ้านข้างวัดจึงกลายเป็นพื้นที่สำคัญที่สนับสนุนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานฝีมือ เช่น งานปักผ้า งานย้อมผ้า งานจักสาน และงานเครื่องหนัง ที่ช่วยเชื่อมโยงวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับตลาดยุคใหม่
เจ้าของร้าน U-Talay Studio ในบ้านข้างวัด เล่าถึงความพิเศษของพื้นที่นี้ว่า
“บ้านข้างวัดเป็นพื้นที่ที่คัดเลือกร้านค้าที่มีเอกลักษณ์และคอนเซ็ปต์โดดเด่นค่ะ ร้านที่นี่ต้องแสดงถึงตัวตนของงานได้ชัดเจน อย่างร้านเราเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมและการสร้างคุณค่าใหม่จากวัสดุที่เคยเป็นขยะ และบ้านข้างวัดยังมีอีเวนต์หลากหลาย ตั้งแต่นิทรรศการศิลปะ งานตลาด ไปจนถึงเทศกาลใหญ่ ๆ อย่างงานปีใหม่ ทำให้ร้านเราได้เจอลูกค้าหลายกลุ่ม ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ที่สำคัญแฟนเพจของบ้านข้างวัดยังช่วยโปรโมทร้านให้เข้าถึงคนในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ช่วยเติมเต็มให้ธุรกิจของเราค่ะ”

ไม่เพียงแค่ชาวบ้านที่ได้ประโยชน์ นักท่องเที่ยวหลายคนยังรู้สึกประทับใจกับความเรียบง่ายและการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ โดยหนึ่งในนั้นกล่าวว่า
“เห็นว่าบ้านข้างวัดเป็นแหล่งรวมคาเฟ่และงานคราฟต์ก็เลยสนใจ พอได้มาเองกลับประทับใจกับความร่มรื่นและบรรยากาศที่มีเสน่ห์แบบท้องถิ่น เหมือนเป็นที่หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ นอกจากนี้ งานฝีมือที่นี่ก็สะท้อนวัฒนธรรมล้านนาได้ดี อย่างพวกเครื่องประดับถักหรือสินค้าที่มีเอกลักษณ์ของภาคเหนือได้ชัดเจน”
การเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน

แม้ว่าบ้านข้างวัดจะประสบความสำเร็จในปัจจุบัน แต่ยังคงมุ่งพัฒนาเพื่อเพิ่มความยั่งยืน เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มาเยือน
งานวิจัยจาก International Council for Local Environmental Initiatives (ICLEI) ชี้ให้เห็นว่า การพัฒนาเมืองที่คำนึงถึงความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยให้ชุมชนเติบโตได้อย่างยั่งยืน บ้านข้างวัดจึงถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างพื้นที่เชิงอนุรักษ์ในเมืองใหญ่ พร้อมกับการสนับสนุนเศรษฐกิจและวัฒนธรรมท้องถิ่น
นอกจากนั้น บ้านข้างวัดยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยเปิดโอกาสให้ศิลปินและช่างฝีมือในท้องถิ่นได้นำเสนอผลงานของตนผ่านร้านค้าและกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งดึงดูดผู้ที่สนใจในวิถีชีวิตและศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น ด้วยการผสมผสานความงดงามของธรรมชาติ วัฒนธรรม และการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม บ้านข้างวัดได้กลายเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความยั่งยืนที่สมบูรณ์แบบ ทั้งสำหรับคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเยี่ยมชม เป็นตัวอย่างของการพัฒนาเมืองจากอดีตและมองไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน
อินโฟกราฟฟิก

สื่อเคลื่อนไหว