เมื่อรักไร้คำจำกัดความ และผลที่ตามมาเมื่อเรามีรัก

0

“รักคงเป็นดั่งเช่นพายุ ที่เข้ามาซัดสักพักก็ไป
หลงเหลือเอาไว้ แค่รอยนํ้าตา
บ้างว่ารักเป็นเพียงแค่ลม หยุดพักนิรันดร์ที่ใครสักคน
ช่างไร้เหตุผล ความรักคืออะไร”

The Real – รักคือ ft. Organ Nan     

ความรักคืออะไร ความรักคือการดูแลเอาใจใส่ ความรักคือความเข้าใจ ความรักคือสายลมที่พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หรือความรักเปรียบเสมือนอากาศถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่สามารถสัมผัสได้ และจำเป็นหากขาดอากาศเราก็ตาย ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น นั่นคือความรักใช่หรือไม่?

ความรักในทางจิตวิทยา

ความรักเกิดจากองค์ประกอบสามอย่างที่เอื้อต่อกันจนเกิดเป็นสามเหลี่ยมที่ชื่อว่า ทฤษฎีสามเหลี่ยมความรัก  (Triangular theory of love)ที่คิดค้นโดยอาจารย์จิตวิทยา มหาวิทยาลัยเยล  โรเบิร์ต สเติร์นเบิร์ก (Robert Sternberg)ซึ่งประกอบไปด้วย ความสนิทสนม (Intimacy) ความใคร่หลง (Passion) และความผูกพัน (Commitment) (โรงพยาบาลเพชรเวช.2564) 

“สัดส่วนทั้ง 3 มุม ของสามเหลี่ยมในทฤษฎีความรัก ส่งผลต่อรูปแบบความสัมพันธ์ และระดับความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน แต่มันไม่ได้มีสูตรสำเร็จยืนยันว่าสัดส่วนควรจะถูกแบ่งเป็นอย่างไร ถึงจะลงตัวที่สุด เพราะแต่ละคนให้ความสำคัญกับทั้งสามองค์ประกอบนี้ไม่เท่ากัน นิยามของความรักของแต่ละคนจึงแตกต่างกันออกไป ความสัมพันธ์ที่ลงตัวที่สุดจึงเป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับทั้งสามส่วนเท่าๆกัน หรือก็คือ มีสามเหลี่ยมที่มีรูปทรงและขนาดเดียวกัน” (ผศ.โมนิล เตชะวชิรกุล.2562)

ความรักในความเข้าใจ

“ความรักคือสิ่งที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตของเราให้มีสีสันมากขึ้น เพราะเมื่อเรามีความรักหรือได้รับความรัก ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ชีวิตก็จะสดใสบ้าง หม่นหมองบ้าง แต่ก็เป็นสีสันในชีวิต” (แสงทิตย์ แซ่โซ้งกล่าว)

“ความรักคือการดูแลเอาใจใส่ คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน เหมือนเวลาเรามีเสื้อตัวโปรด เราก็อยากให้ใส่ได้นานๆ ก็จะคอยดูแลซักรีดเป็นอย่างดี และการสนับสนุนกัน อยู่เป็นกำลังใจให้กัน คนสองคนคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าหากเราเป็นฝ่ายสนับสนุนเพียงฝ่ายเดียวเราจะเหนื่อย” (พชรพล กาญจนเวโรจนกล่าว)

ทำไมถึงคิดว่าความรักคือการดูแลเอาใจใส่ และคอยสนับสนุนกัน

“เห็นตัวอย่างจากปู่กับย่า คนสมัยก่อนแต่งงานเร็ว ตั้งแต่อายุ15-16ปี ทั้งสองก็คอยสนับสนุนกันมาตลอด ไปทำไร่ก็ไปกัน2คน 10 ไร่ 20 ไร่ ก็ทำกัน 2 คน จนวันหนึ่งมีทุกอย่างในชีวิตและเขารักกันมากเพราะร่วมลำบากมาด้วยกัน จนตอนนี้ก็อายุ 50 60 ปีแล้ว มันเหมือนมีต้นแบบให้และก็คิดว่าแบบนี้แหละคือความรัก”

พชรพลกล่าวอย่างภาคภูมิถึงปู่กับย่าของตนเองที่คอยช่วยกันสนับสนุนกันจากวันนั้นที่ไม่มี สู่วันนี้ที่มีเกือบทุกอย่างเพราะการช่วยเหลือดูแลเอาใจใส่และคอยสนับสนุนกัน

ความรักส่งผลอย่างไร

“ที่จริงแล้วความรักมีผลต่อผมมาก ส่งผลทั้งดีและเสีย ผลดีคือทำให้ผมเป็นคนกล้าตัดสินใจมากยิ่งขึ้น เพราะมีคนอยู่ข้างๆคอยให้การสนับสนุน เวลาเหนื่อยก็มีคนให้กำลังใจ ทำให้มีแรงที่จะสู้ต่อเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจอีกที่หนึ่ง   ข้อเสียก็คือหากเราทะเลาะกัน ไม่พอใจกัน ก็จะเก็บไปคิดเล็กคิดน้อย มันทำให้เสียสุขภาพจิต บั่นทอนจิตใจ”

พชรพลเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาที่ความรักส่งผลกับเขาว่า เมื่อก่อนเป็นคนที่แคร์คำพูดของทุกคน กลัวว่าคนอื่นจะมองว่าตนเองเป็นคนไม่ดี แต่เมื่อได้รู้จักกับคนคนหนึ่ง ก็ทำให้มุมมองและความคิดของตนเองเปลี่ยนไป เขาคนนั้นทำให้เลิกสนใจคำพูดของคนอื่น เพราะคำพูดเพียงไม่กี่คำ

“คนที่พูดเขาอยู่กับคุณหรือเปล่าเขารู้จักคุณดีหรือยัง”

นั่นถือเป็นจุดเปลี่ยน เพราะทำให้เลิกสนใจคำพูดของคนอื่น มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นและกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองเหมือนอย่างทุกวันนี้  เช่นเดียวกับแสงทิตย์ที่เล่าให้ฟังว่าความรักนั้นส่งผลต่อชีวิตและจิตใจ

“ความรักส่งผลดี คือทำให้มีความสุข เมื่อมีความรักจะมองโลกในแง่ดีมากกว่าแง่ลบ ส่วนผลเสียก็คือเมื่อเราสูญเสียความรักนั้นไปเราจะควบคุมอารมณ์ภายในใจของตัวเองได้ยาก หรือจะต้องฝืนทนมากๆ”

แสงทิตย์เล่าถึงประสบการณ์การสูญเสียความรักว่าทำให้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองยาก รู้สึกเศร้าตลอดเวลา เวลาที่นึกถึงก็จะร้องไห้ เคยสูญเสียทั้งคนที่รักและสัตว์เลี้ยงที่รักไป ต้องใช้ระยะเวลาในการเยียวยา ในช่วงแรกต้องอยู่กับความรู้สึกที่ฝืนทนตลอดเหมือนขาดบางสิ่งในชีวิตไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

สุดท้ายแล้วรักคืออะไร

“มันน่าแปลกที่ความรักสามารถควบคุมหลายๆอย่างในชีวิตเราได้ บางครั้งความรักก็ทำให้เราเป็นบ้า บางครั้งก็ทำให้เรามีความสุขเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ บางครั้งก็ทำให้เราทนทุกข์เหมือนจมดิ่งอยู่ในนรก”

สุดท้ายแล้วความรักของแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับการจำกัดความของตนเอง นิยามความรักของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไปตามประสบการณ์และความเข้าใจ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือรักส่งผลต่อสุขภาพจิตของเราได้ สามารถผลักดันให้เราทำบางสิ่งบางอย่าง เมื่อเรามีรัก เราจะมีความสุข มองโลกในแง่ดี มีความมั่นใจ แต่เมื่อเราสูญเสียความรักนั้นไป ก็จะทำให้สุขภาพจิตของเรานั้นแย่ลง เหมือนบางสิ่งในชีวิตขาดหายไป แต่สุดท้ายแล้วความรักนั้นเป็นมากกว่าความรู้สึก หากปรารถนาที่จะได้รับความรักหรือมอบความรักให้ใครสักคน หรือสัตว์เลี้ยงสักตัว เราต้องปฏิบัติให้เห็นว่าเรารัก เพราะในความเป็นจริงนั้นความรักเป็นมากกว่าความรู้สึก

“..ถ้าเราขาดความกล้า…เราจะไม่มีวันบรรลุถึงความรักได้..ในเมื่อ ความรักคือการร่วมกันภายใต้..เงื่อนไขของการธำรงไว้ซึ่งความเป็นตนเองไว้อย่างครบถ้วน..ความรักไม่ใช่การหยิบฉวยเอา เพราะความรู้สึกไม่

มั่นคง..แต่มันเริ่มจากการให้..ให้ความร่าเริงยินดี ความสนใจ ความเข้าใจ อารมณ์ขัน…ความโศกเศร้า..ให้ทุกการแสดงออก..รวมทั้งการประกาศให้เห็นถึงสิ่งที่มีชีวิตชีวาทุกสิ่งในตัวเรา”

(อีริค ฟรอมม์. 2513)

แหล่งที่มาและอ้างอิง

หนังสือ อีริค ฟรอมม์. 2513. ศิลปะแห่งการรัก (The Art Of Love): หนังสือเพื่อสังคม, มูลนิธิ

เว็บไซต์

The momentum. (2562). คุยเฟื่องเรื่องรักใคร่ ผ่านดวงตานักจิตวิทยา กับ ผศ.โมนิล เตชะวชิรกุล. สืบค้นจาก https://themomentum.co/love-psychology-monin/ [20 ธันวาคม 2564]

เนตรชนก สายคง. (2557). ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล(ความรัก). สืบค้นจาก https://issuu.com/nokhookmq/docs/3bdbf696021c78 [20 ธันวาคม 2564]

โรงพยาบาลเพชรเวช.(2564). Theory of love จิตวิทยาของความรัก. สืบค้นจาก https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/Theory-of-love [20 ธันวาคม 2564]

เรื่อง : อังคณา สุยะตา

ภาพ : อังคณา สุยะตา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *